วันศุกร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2557

เมลานิน

ทำไมผิวหนังจึงสร้างเมลานิน
       
           กระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานินนั้นนะครับ เกิดจากการทำงานของเซลล์ชนิดหนึ่งที่แทรกอยู่ในชั้นล่างสุดของหนังกำพร้า(Epidermise) ชื่อ เมลาโนไซท์ (melanocyte) โดยเซลล์นี้ทำหน้าที่สร้างเมลานิน(Melanin) ทำให้เกิดเป็นสีผิว ซึ่งทุกคนมีจำนวนเซลล์เมลาโนไซท์นี้เท่าๆกันนะครับ แต่ต่างกันที่จำนวนเมลานินที่ถูกผลิตขึ้นนั่นคือคนที่มีผิวคล้ำแสดงว่าเซลล์เมลาโนไซท์มีการผลิตเมลานินมากกว่าคนทื่มีผิวขาวนั่นเองนะครับ ซึ่งร่างกายของคนเรานั้นไม่ได้ต้องการเมลานินเพื่อให้เกิดสีผิวเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้เมลานินยังช่วยป้องกันร่างกายเรานะครับ จากอันตรายของรังสีที่มองไม่เห็น อาทิ รังสียูวี รังสีอินฟราเรด โดยนะครับ เมลานินที่ถูกสร้างขึ้นจะทำหน้าที่กรองรังสีที่มาทำอันตรายต่อเซลล์ผิวหนังนะครับ โดยเมื่อผิวหนังสัมผัสกับเเสงแดดมากเท่าไรนะครับ เมลานินก็จะถูกสร้างขึ้นมากเท่านั้น นอกจากนี้แล้วนะครับ เมลานิน เขายังทำหน่าที่ช่วยลดจำนวนอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นอันตรายต่อเซลล์อีกด้วย



กลไกการสร้างเมลานิน
      
          กระบวนการผลิตเม็ดสี (melanogenesis) เนี่ยนะครับ ถ้าถ้ามีการผลิตมากหรือน้อยเกินไป ก็อาจเกิดปัญหาสีผิวแตกต่างกันได้นะครับ เช่นถ้าผลิตมากไป อาจทำให้เกิดรอยหมองคล้ำ ฝ้า กระ ขี้แมลงวัน หรือถ้าผลิตน้อยเกินไป ก็อาจทำให้เกิดรอยด่างขาว สีผิวไม่สม่ำเสมอ นำความทุกข์ใจสู่เราๆ ท่านๆ^^ 

          เมลานินแบ่างออกเป็น 2 ประเภท
                    1.ยูเมลานิน (Eumelanin) ซึ่งจะได้แก่เม็ดสีดำ ซึ่งผิวในคนเอเซียและคนที่ผิวคล้ำทั้งหลายในปริมาณที่มากกว่าคนผิวขาว
                    2.ฟีโอเมลานิน (Pheo-melanin) ซึ่งได้แก่เม็ดสีแดง 
     
          เอนไซม์ไทโรซิเนส เป็นเอนไซม์สำคัญมากๆเลยนะครับ ในกระบวนการผลิตเม็ดสีเมลานิน โดยเอนไซม์นี้นะครับ จะไปกระตุ้นให้ tyrosine เปลี่ยนเป็น dihydroxyphenyl alanine (DOPA) และ DOPAquinone ตามลำดับนะครับ จากนั้นโดยกระบวนการ auto-oxidation สาร DOPAquinone จะเปลี่ยนเป็น DOPAchome 
         
           ในกระบวนการผลิตยูเมลานิน DOPAchome จะเปี่ยนเป็น 5,6-dihydroxyindole หรือ 5,6-dihydroxyindole-2-carboxylic acid (DHICA) โดยเอนไซม์ DOPAchome tautomerase หรือ TRP-2 จากนั้น DHICA ที่ได้จะทำปฏิกิริยากับเอนไซม์ DHICA oxidase หรือ TRP-1 แล้วได้ indole 5,6 quinone carboxilic acid ซึ่งจะทำปฏิกิริยา polymerization ได้เป็นยูเมลานินซึ่งมีสีน้ำตาล-ดำ 
          
         
ส่วนการผลิตฟีโอเมลานินนั้นนะครับ กรดอะมิโน glutaione หรือ cysteine จะทำปฏิกิริยากับ DOPA quinone ได้เป็น glutathione DOPA หรือ cystheinyl DOPA ทำให้เกิดเม็ดสีฟีโอเมลานินซึ่งมีสีแดง-เหลือง

วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2557

ผลิตภัณฑ์ช่วยทำให้ผิวขาว 2

          บทความนี้เราก็จะมาเล่าสู่กันฟังล่ะกันนะครับ บางสิ่งที่ท่านรู้ เราอาจไม่รู้ บางสิ่งที่ท่านไม่รู้ เราอาจรู้ และบางสิ่งที่ท่านไม่รู้ เราก็อาจไม่รู้เช่นกัน เอ๊ะ!!! ยังไง 555  สิ่งใดผิดพลาดประการใดก็ช่างมันเนอะ 555 แนะนำกันมาได้นะครับ ^^


ขั้นตอน
กลไก
ตัวอย่างสาร
ก่อนสร้างเมลานิน
ยับยั้งการสร้าง RNA ของ เอนไซม์ไทโรซิเนส
tretinoin
ขณะสร้าง
ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส
hydroquinone     azelaic acid    
4-hydroxyanisle  kojic acid     
4-S-cysteaminyphenol     emblica             arbutin tyrostat            aloesin
หลังสรางเมลานิน
ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ peroxidase
phenols
ลดการสร้างและเพิ่มการทำลายอนุมูลอิสระ
ascorbic acid
tocopherol
ยับยั้งการเคลื่อนที่ของ melanosome
serine proteease inhibition ecithin neoglycoprotien soybean 
milk extract niacinamide
กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว
glycolic acid     liquirtin lactic acid retinoic acid     linoleic acid nelix aspersa muller
ทำลายเอนไซม์ไทโรซิเนส
linoleic acid

          สิ่งที่ปรากฏขึ้นนี้ คือตัวอย่างนะครับ ขอย้ำว่าแค่ตัวอย่างเท่านั้นนะครับ ยังมีสารอีกหลายๆตัวที่ผมไม่ได้เอ่ยในตารางข้างบน 



          ผมขอเริ่มต้นที่ วิตามินซีก่อนเลยนะครับ เพราะเป็นอะไรที่ใกล้ตัวสุดๆไปเลย วิตามินซีเนี่ยนะครับ เป็นสารที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เรียกได้ว่าเป็นหนุ่มฮอตในวงการเลยที่เดียว วิตามินซีมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีมากเลยนะครับ หลายๆท่านคงทราบกันเป็นอย่างดี แต่ตัวเขาเองจะถูกออกซิไดส์ได้ง่ายเมื่อถูกแสง ทำให้มีฤทธิ์ลดลง ดังนั้นฝรั่งหัวใสจึงพัฒนาให้อยู่ในรูปอนุพันธ์ของวิตามินซี เช่น ethyl ascorbic acid, magnesium ascorbyl phosphate (MAP), magnisium ascorbate (PAC), ascorbyl oleate, vitamin C glycoside และ disodium ascorbyl sulfate สารที่เป็นอนุพันธ์ทั้งหลายเนี่ยนะครับ จะถูกเปลี่ยน เป็น gamma ascorbic acid ที่เป็นตัวออกฤทธิ์ โดยเอนไซม์ phosphatease ซึ่งอยู่ในผิวหนัง จากนั้นนะครับ สารที่ออกฤทธิ์จะไปยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน โดยรบกวนการจับกับ copper irons ของเอนไซม์ไทโรซิเนสบริเวณ active site และรีดิวซ์ dopaquinone ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของการสร้างเม็ดสี ^^

         

          โคจิกแอซิด เป็นสารที่ผลิตจากกระบวนการเมทาบอลิซึมของเชื้อรา เช่น Aspergillum และ Penicillium มีกลไกการออกฤทธิ์ โดยยั้บยั้งเอนไซม์ไทรซิเนสนะครับ คือไปจับกับ copper ซึ่งเป็น coenzyme ในกระบวนการสร้างเม็ดสีและเป็น active site ของเอนไซม์ มีผลทำให้เอนไซม์ไทโรซิเนสไม่สามารถจับกับ copper ได้ กระบวนการผลิตเม็ดสีเมลานินจึงไม่เกิดขึ้นนั้นเองครับ 
        

วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2557

ผลิตภัณฑ์ช่วยทำให้ผิวขาว

          สังคมไทยเราเนี่ยนะครับ นิยมชมชอบการมีผิวสีอ่อนมากกว่าผิวสีเข้มเพราะ ดูสะอาดตาสดใส บ่งบอกถึงความเป็นผู้ดี 555 ไม่ต้องทำงานตากแดด เป็นกรรมกรแบกห่าม ขาวๆมันก็น่ามองมากกว่าใช่ม่ะล่ะ 555 อะไรประมาณนั้นแหละครับ ดังนั้นบุคคลใด ที่ผิวออกจะคล้ำนิดนึง ก็พยายามสรรหาวิธีการหรือสารต่างๆ เพื่อทำให้สีผิวจางลงและขาวขึ้น ผมขอแบ่งประเภทสารช่วยทำให้ผิวขาวดังนี้ล่ะกันนะครับ


1.สารคลุมผิว
2.สารกันแดด เพื่อช่วยลดการกระตุ้นการสร้างเม็ดสีในผิวหนัง
3.สารลอกผิวซึ่งลอกเซลล์ผิวที่คล้ำออก
4.สารที่ไปยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสซึ่งเป็นเอนไซม์ที่กระตุ้นการสร้างเม็ดสี

          กลไกหรือกระบวนการทำให้ผิวขาวนะครับ ผมคิดว่านะ(คือความเห็นส่วนตัวนะ และมันก็น่าจะเป็นเช่นนั้นนะ 555) คือ  การป้องกันรังสียูวี อาจจะทำได้ในหลายๆวิธีเช่น หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด ถ้าจำเป็นก็ควรทาครีมกันแดดซักหน่อย เพื่อมิให้รังสียูวี ไปกระตุ้นกระบวนการผลิตเม็ดสีเมลานิน
       
       
          พอร่างกายผลิตเม็ดน้อยลงเราก็เร่งการผลัดเซลล์ผิวซะหน่อย เพื่อเผยผิวขาวของเรา เพราะร่างกายไม่ค่อยผิตเม็ดสีแล้ว อาจทำได้หลายๆวิธีเช่นกัน อาทิ สครับผิว อารมณ์แบบขัดขี้ไคลนั้นแหละครับ หรืออาจใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA แต่อาจจะทำให้ผิวบางไว ต่อแสงแดด สมควรอย่างยิ่งที่จะใช้ตอนกลางคืน แบบว่า ทาเสร็จปิดไฟนอนเลย หรือไม่ก็ทามันตอนมืดๆนั้นแหละ 555

          ส่วนสุดท้าย คือการยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำไมต้องยับยั้ง??? ป้องกันแสงแดดไม่พอเหรอ ??? นั้นสิ ทำไมล่ะ เพราะกระบวนการผลิตเม็ดสีเมลานิน ไม่ได้ถูกกระตุ้นโดยรังสียูวีเพื่ออย่างเดียว การผลิตเมลานิน ยังถูกกระตุ้นโดย อนุมูลอิสระ ฮอร์โมน ยาคุมกำเนิด การขาดวิตามิน โรคผิวหนังบางชนิด บลาๆๆๆๆ
       
       




     

วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ผลิตภัณฑ์เวชสำอางสำหรับผิวหนัง

ผลิตภัณฑ์เวชสำอางสำหรับผิวหนัง
          อันเนื่องมาจากเครื่องสำอางในตลาดบ้านเรามีมากมายก่ายกอง และทาง อย. เขาก็จัดเครื่องสำอางทุกประเภทให้เป็นเครื่องสำอางควบคุม คือไม่ได้จัดจำแนกแยกแยะ ว่าเครื่องสำอางนั้นคือประเภทไหน จุดประสงค์ในการใช่เพื่ออะไร แค่ให้รู้ว่าเป็นเครื่องสำอางควคุม ควบคุมเพื่อ??? ใครควคุม ควคุมจากอะไร ผมจึงเขียนบทความนี้ เพื่อ...เพื่ออัลไล 555+
          สารที่เป็นองค์ประกอบในผลิตภัณฑ์มความสำคัญในการใช้เป็นเกณฑ์ในการแยกผลิตภัณฑ์เวชสำอางจากผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางทัั่วไป โดยทั่วไป สารที่เป็นองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์เวชสำอางจะต้องออกฤทธิ์และเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเซลล์ผิวหนังโดยมีแนวโน้มที่จะมีประสิทธิภาพในเชิงรักษา ซึ่งต่างจากเครื่องสำอางทั่วไปที่มีจุดประสงค์เพื่อทำความสะอาดร่างกาย ให้ความสวยงามหรือส่งเสริมให้เกิดความสะอาด และประทินผิวเท่านั้น ประเภทของผลิตภัณฑ์เวชสำอางสำหรับผิวหนังมีหลายประเภทแบบตามความนิยมของชาวบ้านเขาได้ ดังนี้
  1. ผลิตภัณฑ์ต้านริ้วรอย
  2. ผลิตภัณฑ์ลรอยแผลเป็น
  3. ผลิตภัณฑ์ช่วยทำให้ขาว
  4. ผลิตภัณฑ์กันแดด
  5. ผลิตภัณฑ์ทาทาบนผิวหนังเพื่อลดไขมันส่วนเกิน

เรื่อง ผิว ผิว

         เรื่อง ผิว ผิว

           ด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์ด้านความสวยความงามสมัยนี้เจริญรุดหน้าไปมากนะครับ  ทำให้ทุกสัดส่วนของร่างกายมนุษย์โลกเรานี้ได้รับการดูแล โดยมีผลิตภัณฑ์เสริมความงาม  เกิดขึ้นมามากมาย เรียกได้ว่าผุดขึ้นมายิ่งกว่าดอกเห็ดซะอีก 555+ ทั้งที่ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง ก็แล้วแต่บุญแต่กรรมพี่น้องล่ะครับ 555+ หรืออาจมีผลข้างเคียงจนเกิดอันตรายต่อร่างกายก็มี ซึ่งสิ่งเหล่านี้คุณๆ ท่านๆทั้งหลายก็ต้องมีความรู้บ้างล่ะ สำหรับการเลือกซื้อ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ และการบริการ จึงจะได้รับผลิตภัณฑ์ และการบริการที่มีคุณภาพ เหมาะสมและปลอดภัย ใช่ไหมล่ะครับ ไม่งั้นโดนเขาหลอกตายเลย
       
          โดยที่ผ่านมาความสวยงามบนใบหน้าเป็นจุดที่ผู็คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ และให้ความสนใจดูแลมากที่สุด ซึ่งปัญหาของสาวๆทั้งหลายคงหนีไม่พ้น ผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ สิว จึงทำให้พ่อค้าหัวใสดลบันดาลผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติต่างๆเกิดขึ้นมากมาย เกลื้อนตลาดไปหมด แบบว่าหาซื้อง่ายกว่าน้ำปลาอีก 555+ ก่อนที่เราจะมารู้จักธรรมชาติของผลิตภัณฑ์ เรามารู้จักธรรมชาติของผิวเราก่่อนเนาะ
นางสวยนะ
                
          ธรรมชาติของผิวแต่ละคน แต่ละเชื้อชาติมีความแตกต่างกัน และทำให้มีค่านิยมในเรื่องสีผิวแตกต่างกันไปด้วย คนที่อาศัยอยู่ในทวีปเอเชีย ทวีปแอฟริกา ทวีปอเมริกาใต้มีค่านิยมที่ว่า ผิวขาว นวลเนียน เป็นสิ่งแสดงสถานภาพทางสังคมและเศรษฐกิจว่ามีสถานภาพทางสังคมที่ดี ร่ำรวย ไม่ต้องทำงานหนักหรืออยู่ท่ามกลางแสงแดดจัด แต่สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในทวีปยุโรป ทวีอเมริกาเหนือ มีค่านิยมตรงกันข้ามคือต้องการมีสีผิวที่คล้ำ ผิวสีแทน คล้ำแดด ซึ่งบ่งบอกสถานภาพว่ามีฐานะร่ำรวย สามารถท่องเที่ยว พักผ่อนตากอากาศ บริเวณที่มีแสงแดดจัด อากาศอบอุ่น และเป็นผู้มีสุขภาพดี 
          ทั้งนี้คนผิวขาวมีโอกาสเกิดมะเร็งผิวหนังมากกว่าคนผิวคล้ำ 10 เท่า เมื่ออยู่ในสภาวะเดียวกัน ผิวสีคล้ำซึ่งเกิดจากการปรับตัวของร่างกายเมื่อได้รับรังสีอัลตราไวโอเลต สามารถป้องกัน อันตรายจากรังสuอัลตราไวโอเลตที่จะทำลายเซลที่อยู่ลึกใต้ผิวหนังได้มากกว่าผิวสีขาว นอกจากนี้ ผิวสีคล้ำยังป้องกันการทำลายโฟเลตจากรังสียูวีเอ โฟเลต เป็นสารในกลุ่มวิตามินบี ที่มีความสำคัญในการสร้างดีเอ็นเอขณะแบ่งเซล ซึ่งระดับโฟเลตที่ต่ำในหญิงมีครรภ์ ทำให้ทารกเกิดความผิดปกติ 
         

          อย่างไรก็ตาม การที่มีผิวสีคล้ำเป็นการป้องกันการผ่านของรังสียูวีบี ทำให้ร่างกายไม่สามารถสร้างวิตามินดีที่ผิวหนังได้ ซึ่งวิตามินดีจำเป็นต่อการดูดซึมแคลเซียม และการเจริญเติบโตของกระดูก ขณะที่คนผิวขาวสามารถสร้างวิตามินดีที่ผิวหนังได้ดีเมื่อได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตทำให้มีระดับแคลเซียมในร่างกายสูงอย่างไรก็ดี ลักษณะสีผิวที่แตกต่างไปตามพันธุกรรมและเชื้อชาตินั้น ธรรมชาติได้สร้างมาให้เหมาะสมกับสภาวะความเป็นอยู่ของบุคคลนั้น ๆ ดังจะเห็นได้ว่าคนที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองร้อน ก็จะมีผิวสีแทนคอยปกป้องรังสีอัลตราไวโอเลตที่จะทำลายเซลที่อยู่ลึกใต้ผิวหนังที่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง ที่ผิวหนังได้มากกว่าผิวสีขาว สำหรับคนผิวขาวที่ได้รับแสงแดดน้อยสีผิวที่ขาวจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างวิตามินดีได้มาก
     

วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Monoi De Tahiti coco

          โมนอย ความงามดั้งเดิมของหญิงสาวขาวโพลีนีเซีย โมนอยเป็นน้ำมันหอมที่เกิดจากการหมักไม้กลีบขาวแห่งเกาะตาฮิติ หรือทีรู้จักในชื่อ “เทียเร่” โดยใช้กรรมวิธีสกัดโดยใช้ไขมันในน้ำมันจากเนื้อมะพร้าวตากแห้งซึ่งปลูกบนเกาะตาฮิติ และน้ำมันบริสุทธิ์นี้เป็นผลิตผลจากกระบวนการแรงดันความร้อนต่อเปลือกมะพร้าวแห้ง 
          เจมส์ คุก นักเดินเรือและนักสำรวจชาวอังกฤษ ได้ค้นพบบันทึก ของเผ่าเมารี เผ่าคนพื้นเมืองของโพลินีเชียรัว ( นิวซีแลนด์ ) บันทึกไว้ว่า มีการใช้น้ำมันโมนอยมากว่าสองพันปีแล้ว โดยโมนอยเกี่ยวข้องกับชนเผ่าเมารี ตั้งแต่เกิดจนตาย โดยแรกเกิดนั้น ชนเผ่าเมารีจะใช้โมนอยชโลมตัวทารกเพื่อกันผิวไหม้จากแสงแดด และผิวแห้ง แตกในฤดูหนาว เมารีใช้ โมนอย เพื่อปกป้องร่างกายของพวกเขาจากความหนาวเย็น ลมที่รุนแรงและน้ำทะเลในระหว่างการเดินทางในทะเล  เมื่อคนตาย ร่างกายของพวกเขาจะถูกดองด้วยโมนอย โดยมีความเชื่อว่ากลิ่นหอมของโมนอย จะช่วยนำทางพวกเขาในชีวิตหลังความตาย และโมนอยยังถูกนำมาใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา เช่น ใช้เจิม ใช้ชำระล้างวัตถุมงคล และเซ่นไหว้เพทของพวกเขา
          ดอก “เทียเร่แห่งเกาะตาฮีติ” – สัญลักษณ์ของหมู่เกาะ เฟรนช์โพลีนีเซีย จะถูกปลุกในพื้นที่ห่างไกลของเกาะ และ จะถูกนำมาใช้ในกระบวนการผลิตโดยเร็วที่สุดหลังจากการเก็บเกี่ยว สภาพอากาศและคุณภาพของดินนั้นจะมีผลต่อสรรพคุณที่แสนพิเศษของน้ำมันขนิดนี้ น้ำมันโมนอยซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลความงามจากธรรมชาติจะทำให้ผู้ใช้ได้รับคุณประโยชน์ทุกๆด้านของดอกเทียเร่ ตั้งแต่การใช้เป็นเครื่องสำอางแบบดั้งเดิม และยังให้ผลทางเภสัชของโพลีนีเซีย ในการช่วยบรรเทาอาการปวดศรีษะ หรือ การปวดจากแมลงกัด น้ำมันโมนอยสามารถใช้ได้ในรูปของน้ำมันบริสุทธิ์ หรือ ใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง หรือ ใช้เป็นน้ำหอมได้เช่นกัน 
          แพทย์พื้นบ้านโพลินิเซีย ได้จัดดอกเทียเร่ไว้ตามโรงนอนเพื่อบรรเทาช่วงของโรคภัยไข้เจ็บที่พบบ่อยรวมทั้งโรคไข้หวัดปวดหัวและถูกแดดเผา  และชาวโพลินิเซียส่วนใหญ่มักจะลอยดอกเทียเร่ ในอ่างน้ำเพื่อให้ดอกเทียเร่ปล่อยกลิ่นหอมทั่วทั้ง fares ของพวกเขา (บ้านโพลินีเชีย)
          กระบวนการผลิตน้ำมันโมนอย นำน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์กับดอกเทียเร่ที่อยู่ในระยะดอกยังไม่บาน นำมาแช่ทิ้งไว้ 12 วัน โดยมีอัตราส่วนที่ ดอกเทียเร่ 12 ดอก ต่อ น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ 1 ลิตร หลังจากนั้นทิ้งไว้อีก 24 ชั่วโมงให้ตกตะกอน และทำการกรอง จึงจะได้น้ำมันโมนอยที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (วิตามิน E จากธรรมชาติ) หลังจากนั้นน้ำมันโมนอยที่ผ่านกระบวนการผลิตจะถูกตรวจสอบคุณภาพก่อนทำการบรรจุหีบห่อ
           คุณสมบัติ 
· ให้ความชุ่มชื้นต่อเนื่องและยาวนาน 
· ทำให้ microrelief คงรูปและเรียบเนียน  
· ดูแลรักษาผมแห้งและผมเสีย 
· กันรังแค